พูด...ในใจ


วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ผู้เรียนได้ศึกษานอกสถานที่ ณ แหล่งเรียนรู้ "บ้านไม้เรียง"



1.มหาวิทยาลัยธรรมชาติ


สิ่งที่ได้รับ
--กระบวนการการผสมผสานระหว่าง"กระบวนการภูมิปัญญาชาวบ้าน"กับ"กระบวนการทางวิทยาศาสตร์"
เช่น 1.การนำปลาดุกมาเลี้ยงในที่ที่จำกัด แล้วหาจำนวนปลาดุกที่ดีที่สุดที่ทำให้ปลาไม่ป่วยและมีการเจริญเติบโตดี
2.วิธีการทำให้ปลาดุกกินผัก เช่น ผักตบชวา ผักบุ้ง โดยการลดอาหารลง ทำให้ปลาต้องกินผักที่ใส่ไว้ เพื่อความอยู่รอด
3.การเลี้ยงกบคอนโด และวิธีการเพาะพันธุ์กบ
4.การย้อมสีกบ โดยการใส่กบลงไปในน้ำฟางข้าว
5.การผลิตน้ำหมักชีวภาพจากพืชเพื่อนำมาใช้ในการเลี้ยงสัตว์ โดยการใส่ลงไปในน้ำที่เลี้ยงปลาดุก ทำให้ปลาดุกไม่ป่วยและน้ำไม่เน่าเสียง่าย
6.การแปรรูปข้าวแข็งที่ปลูกกันในพื่นที่อำเภอปากพนัง มาเป็น"เส้นขนมจีน"
7.การผลิตน้ำยาล้างจาน ยาสระผม สบู่ เป็นต้น



2.บ้าน คุณ"หมอดิน"
(คุณลุงอนันต์ สุวรรณโน)


สิ่งที่ได้รับ
1.การบังคับให้ไม้ดอกและไม้ผล ออกดอกออกผล ทุกๆปี
2.การตรวจสอบคุณภาพดิน
3.การเพิ่มสารอาหารในดินอย่างเหมาะสม โดยใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ และ ปุ๋ยคอก ควบคู่กัน


3.ศูนย์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
(คุณน้า พรประสิทธิ์ ไม้เรียง)



สิ่งที่ได้รับ
----การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของต้นกล้วยไม้พันธุ์หายากต่างๆ โดยใช้สปอร์ ทำการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อในอาหารสังเคราะห์ทั้งแบบเหลวและแบบแข็ง ในการทำนั้น ต้องควบคุมให้อยู่ในสภาพปลอดเชื้อ เพราะอาจจะทำให้ต้นกล้วยไม้หยุดการเจริญเติบโตได้

แนะนำตัวเอง.....

ชื่อ นาย ภีมวิชญ์ ฉิมมี
เกิด วันอาทิตย์ ที่ 19 มีนาคม 1995
กร๊ปเลือด A
การศึกษา
จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจาก โรงเรียนอนุบาลนครศรีธรรมราช ณ นครอุทิศ
กำลังศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ นครศรีธรรมราช
ความชอบ
ชอบสีดำ ชอบสุนัข ชอบดูหนัง ชอบฟังเพลง ชอบกิน ชอบนอน ชอบเล่นเกม ชอบวิ่ง ชอบผู้หญิง ชอบแมว ชอบปลากัด ชอบกล้วยไม้ ชอบอ่านนิยายเรื่อง The last fantasy , Harry potter , ทุกเรื่องที่ไม่เน่า ชอบเล่น ชอบกระโดด ชอบเครื่องบิน และชอบวิศวกรรมศาสตร์ อากาศยานและการบิน โรงเรียนนายเรืออากาศ^^

JASS22-GRIPEN



มารู้จักกับ Jas-39 Gripen




กริเพนไม่มีหางหลัง แต่ใช้ปีกเสริมด้านหน้า(Canard)เพิ่มความคล่องตัวและแรงยก

JAS ย่อจาก Jakt (อากาศสู่อากาศ), Attack (อากาศสู่พื้น), and Spaning (ลาดตระเวน)

* ความเร็วสูงสุด: มัค 2 (เร็วกว่าเสียงสองเท่า)

* พิสัยปฏิบัติการ: 800 กิโลเมตร

* เพดานบิน: 15 กิโลเมตร

* บรรทุกน้ำหนัก(อาวุธ/น้ำมัน)ได้: 8ตัน

* อัตราการไต่ระดับ: 20,000 ฟุตต่อนาที

* ค่าดูแลรักษา: 90,000บาทต่อหนึ่งชั่วโมงบิน

* เข้าประจำการครั้งแรก: ปี1997

การมีเครื่องบินค่าดูแลรักษาต่ำมีสำคัญ เพราะนักบินจะได้ฝึกซ้อม ใช้งานเครื่องบ่อยจนคุ้นเคยถึงคราวเกิดสงครามจริงๆจะได้ไม่งงว่าปุ่มนี้ทำอะไร สตาร์ทตรงไหน ยิงจรวดยังไง

กริเพนบินขึ้นได้จากถนนหลวงขนาดกว้างเพียง 9 เมตร ยาว 400 เมตรเท่านั้น

ตรงนี้เป็นความสามารถที่กริเพนทำได้เครื่องเดียวในโลกเพราะสวีเดนมีนโยบายทางทหารเหมือนไทยคือรับไม่ใช่รุก สมมติเกิดสงครามแล้วสนามบินใหญ่ๆอย่างดอนเมือง ตาคลี อู่ตะเภาถูกทำลาย เราก็ยังให้กริเพนขึ้นต่อสู้จากถนนหลวงและหาถนนสายเหนือ อิสาน ตะวันออกตรงจุดเรียบๆ ใช้ลงจอดได้

พูดถึงรบทางอากาศท่านผู้อ่านคงมีภาพของเครื่องบินรบบินไล่กวดกันกลางอากาศเหมือนในหนัง ต่างฝ่ายต่างหาท่าพลิกแพลงเพื่อวางตำแหน่งเครื่องตัวเองให้อยู่ท้ายข้าศึก ล็อคจรวดแล้วยิงออกไปในระยะเผาขนแบบเกม Ace combat อย่างไรอย่างนั้น

ยุคการพันตูตะลุมบอนแบบในเกมหมดสมัยไปนานเป็นสิบปีแล้ว การรบทางอากาศสมัยใหม่ส่วนใหญ่ฆ่ากันตั้งแต่ ยังไม่เห็นจมูกเครื่องบินอีกฝ่ายด้วยซ้ำไป

Amraam ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศของสหรัฐ พิสัยสังหารร้อยกิโลเมตร

ถึงความคล่องตัวในระยะใกล้ของกริเพนแม้จะสูสีกับ F16 สู้ Su30 ไม่ได้ แต่โอกาสที่ Su จะเข้ามาใช้ท่าบินในระยะประชิดก็มีน้อย เพราะสงครามทางอากาศสมัยใหม่ไม่ได้พึ่งปืนกลอากาศหรือจรวดยิงระยะประชิดอีกต่อไป

การรบ BVR หรือ Beyond Visual Range แปลไทยว่านอกระยะสายตานั้น มีอาวุธสำคัญสองอย่างคือเรดาห์และจรวดนำวิถี หลักการคือเปิดเรดาห์กวาดหาศัตรู...เมื่อพบแล้วก็ล็อคจรวดยิงปลิดชีพ่จากระยะเกือบ 100 กิโลเมตร

เมื่อเป็นเช่นนี้หัวใจสำคัญของเครื่องขับไล่ยุคใหม่คือ

1.ระยะเรดาห์ว่าใครเห็นใครก่อน
2.เครื่องใครโดนตรวจจับบนเรดาห์ได้ง่ายกว่ากัน
3.ระยะและความแม่นยำของจรวดนำวิถี

การใช้เรดาห์ก็ใช่ว่าจะเปิดค้างตลอดเวลา เพราะเมื่อใดที่คุณเปิดใช้งานมันข้าศึกก็จะจับสัญญาณได้ เห็นคุณทันทีเช่นกัน
เรดาห์ของกริเพนมีระยะไกลกว่าF16 สูสีกับซูแถมยังละเอียดกว่า ใหม่กว่า แถมขนาดที่เล็กของกริเพนยังทำให้ข้าศึกตรวจจับด้วยเรดาห์ได้ยากอีกด้วย

ที่สำคัญมากคือกริเพนมีระบบส่งข้อมูลไฮเทคที่สามารถรับข้อมูลเรดาห์จากสถานีซึ่งอยู่ไกลออกไป 500 กิโลเมตรโดยไม่ต้องเปิดเรดาห์ให้ใครเห็น

ปัจจุบันมีกริเพนและ F22 เครื่องบินรุ่นก้าวหน้าของสหรัฐที่ไม่มีวันขายให้ใครเท่านั้นที่ใช้ระบบนี้ ซู30 มิก29 และ F16 ไม่มีความสามารถทำได้ กริเพนจึงได้เปรียบมากในการรบเลยระยะสายตาเพราะสามารถเห็นศัตรูได้ตั้งแต่ 120 กิโลเมตร(ด้วยเรดาห์บนเครื่อง) หรือ 450 กิโลเมตร(ด้วยเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ)